เมนู

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า อคารํ ได้แก่ เรือนชนิดใดชนิดหนึ่ง.
บทว่า ทุจฺฉนฺนํ ได้แก่ มุงไว้ห่าง ๆ คือเป็นช่องน้อยช่องใหญ่. บทว่า
สมติวิชฺฌติ ความว่า ฝนที่ตกย่อมรั่วรดได้.
บทว่า อภาวิตํ ความว่า จิตที่ไม่ได้อบรมแล้ว เพราะเว้นจากภาวนา
เปรียบเหมือนฝนที่รั่วรดเรือนได้.
บทว่า ราโค สมติวิชฺฌติ ความว่า มิใช่ราคะจะรั่วรดได้อย่าง
เดียวเท่านั้น แม้สรรพกิเลสมี โทสะ โมหะ และมานะเป็นต้น ก็ย่อมรั่วรด
จิตเห็นปานนั้นได้เหมือนกัน.
บทว่า สุภาวิตํ ได้แก่ จิตที่อบรมดีแล้ว ด้วยสมถภาวนา และ
วิปัสสนาภาวนา กิเลสทั้งหลายมีราคะเป็นต้น ย่อมไม่สามารถจะรั่วรดจิต
เห็นปานนั้นได้ เหมือนเรือนที่มุงดีแล้ว ฝนย่อมรั่วรดไม่ได้ ฉะนั้น.
จบอรรถกถาราธเถรคาถา

8. สุราธเถรคาถา


ว่าด้วยคาถาของพระสุราธเถระ


[265] ได้ยินว่า พระสุราธเถระได้ภาษิตคาถานี้ไว้ อย่างนี้ว่า
ชาติของเราสิ้นแล้ว คำสอนของพระชินเจ้า เรา
อยู่จบแล้ว ข่าย คือ ทิฏฐิและอวิชชา เราละได้แล้ว
ตัณหาเครื่องนำไปสู่ภพ เราถอนได้แล้ว เราออกบวช
เป็นบรรพชิต เพื่อประโยชน์ใด ประโยชน์นั้นเราได้
บรรลุแล้ว ความสิ้นสังโยชน์ทั้งปวง เราก็ได้บรรลุ
แล้ว.